การตั้งชื่อหัวข้อศึกษาค้นคว้า

การตั้งชื่อหัวข้อศึกษาค้นคว้า
การคิดหัวข้อ และการกำหนดชื่อเรื่อง
ผู้เขียน: วิจิตร ณัฏฐการณิก ค.บ., ศษ.ม. ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนหอวัง

การคิดหัวข้อ
การคิดหัวข้อ หรือการกำหนด “ชื่อเรื่อง” ของปัญหาที่จะทำการศึกษาค้นคว้าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดของการค้นคว้าอิสระ การคิดหัวข้อ หรือ “ชื่อเรื่อง” มีหลักเกณฑ์ดังนี้

  1. คิดหัวข้อ และเลือก “ชื่อเรื่อง” ด้วยตนเอง
  2. คิดหัวข้อ หรือ “ชื่อเรื่อง” จากประเด็นปัญหา ข้อสงสัย คำถาม หรือเรื่องที่อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ของตนเอง
  3. คิดหัวข้อ หรือ “ชื่อเรื่อง”ให้มีความเฉพาะเจาะจงและชัดเจน โดยต้องระบุชัดว่าจะค้นคว้าอะไร
  4. หากเป็นเรื่องแปลกใหม่ หรือมีแนวการศึกษาทดลองที่แปลกใหม่ ต้องเป็นสิ่งซึ่งแสดงออกถึงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ด้วย
  5. คำนึงถึงเป็นประโยชน์ของเรื่องที่จะศึกษาค้นคว้า และเป็นการเพิ่มคุณค่าของผลงงานการค้นคว้าอิสระมากยิ่งขึ้น

แหล่งที่มาของชื่อเรื่อง
“ชื่อเรื่อง” ในการค้นคว้าอิสระอาจมีที่มาจากแหล่งต่างๆ ดังต่อไปนี้

  1. จากการอ่านสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ เช่น ตำรา หนังสือพิมพ์ วารสาร เอกสารเผยแพร่ เป็นต้นไม่เฉพาะแต่เรื่องราวทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น
  2. จากการไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เช่น วนอุทยาน สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ โรงงานอุตสาหกรรม สถานที่เพาะเลี้ยงพืชและสัตว์ หน่วยงานวิจัย ห้องปฏิบัติ เป็นต้น
  3. จากการฟังบรรยายทางวิชาการ การฟังและชมรายการวิทยุโทรทัศน์
  4. จากกิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน
  5. จากงานอดิเรกของนักเรียนเอง
  6. จากการเข้าชมนิทรรศการ หรืองานประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  7. จากการศึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีผู้อื่นทำไว้แล้ว
  8. จากการสนทนากับครู อาจารย์ เพื่อนๆ หรือบุคคลอื่นๆ
  9. จากการสังเกตปรากฏการณ์ต่างๆ รอบตัว

องค์ประกอบของชื่อเรื่อง
“ชื่อเรื่อง” ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการจะต้องมีองค์ประกอบสำคัญครบทั้ง 3 ส่วน คือ วิทยวิธี, เป้าหมาย และตัวแปร/เครื่องมือ

  1. วิทยวิธี หมายถึง วิธีการที่ใช้ดำเนินการในการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องที่สนใจ ซึ่งต้องเขียนขึ้นต้นชื่อเรื่องเสมอ คำที่แสดงวิทยวิธีมีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 6 คำ คือ
    การสำรวจ
    การศึกษา
    การพัฒนา การประเมิน
    การเปรียบเทียบ
    ความสัมพันธ์ระหว่าง
  2. เป้าหมาย หมายถึง จุดประสงค์สุดท้ายอันเป็นปลายทางของการค้นคว้าอิสระเกี่ยวกับประเด็นปัญหาหัวข้อ หรือชื่อเรื่องนั้นๆ
  3. ตัวแปร หรือเครื่องมือ
    3.1 ตัวแปร หมายถึง สิ่งที่มีอิทธิพล ผล หรือสิ่งที่อาจก่อให้เกิการเปลี่ยนแปลงของการทดลอง
    3.2 เครื่องมือ หมายถึง วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินการศึกษาค้นคว้า
    ตัวอย่างชื่อเรื่องที่มีองค์ประกอบครบทั้ง 3 ส่วน เช่น
    “การสำรวจปริมาณแมลงศัตรูพืชในนาข้าวจังหวัดสุพรรณบุรีที่ใช้ยันต์กันเพลี้ย”
    “การศึกษาวิธีการสกัดเย็นน้ำมันมะพร้าว”
    “การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBblog) ด้วย (WordPress) เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์”
    “การประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน”
    “การเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการไล่ยุงระหว่างสารสกัดเปลือกส้มกับสารสกัดตะไคร้หอม”
    “ความสัมพันธ์ระหว่างหญ้าแฝกกับการเพิ่มผลผลิตในพื้นที่สูง”

ข้อควรคำนึงในการกำหนดชื่อเรื่อง
ข้อควรคำนึงที่พึงพิจารณาประกอบการคิดหัวข้อ หรือกำหนด “ชื่อเรื่อง” ที่จะศึกษาค้นคว้ามีดังนี้

  1. เป็นเรื่องที่มีความรู้ ทักษะการใช้อุปกรณ์พื้นฐาน และมีทักษะในเทคนิควิธีอย่างเพียงพอ
  2. มีแหล่งความรู้อย่างเพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคำปรึกษา
  3. วัสดุ อุปกรณ์ที่จำเป็นสามารถจัดหา หรือจัดทำขึ้นเองได้
  4. มีระยะเวลาเพียงพอที่จะทำการค้นคว้าในเรื่องนั้นๆ
  5. มีครู อาจารย์ หรือผู้ทรงคุณวุฒิรับเป็นที่ปรึกษา
  6. มีความปลอดภัย
  7. มีงบประมาณเพียงพอ

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา

งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา

จากการศึกษางานวิจัยเผยว่า คนที่ทำตัวแปลกๆหรือทำตัวประหลาดแตกต่างจากคนปกติ หรือคนที่มีคาแร็คเตอร์แปลกประหลาดแบบธรรมชาติของเขาเอง สามารถสร้างแรงดึงดูดต่อเพศตรงข้าม และทำให้มีโอกาสหาแฟนหรือคนรู้ใจได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ใครที่โสดมานานแล้วอยากสละโสด คงจะได้ฤกษ์สละโสดเร็วๆนี้แล้ว . ซึ่งผลวิจัยดังกล่าวข้างต้น อ้างอิงจากวารสารว่าด้วยบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม (Personality and Social Psychology Bulletin) ของสหรัฐอเมริกา เป็นการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิง จากการเลือกเพศตรงข้ามที่สนใจผ่านเว็บไซต์หาคู่เดทออนไลน์ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงต่างถูกใจในผู้ที่มีความแปลกกว่าคนทั่วไป ทั้งในเรื่องสไตล์เสื้อผ้า การแต่งตัว รสนิยม และทัศนคติ . บางท่านอาจสงสัยว่า

งานวิจัยเผย : ฝนตกทำให้คนเหงา เป็นเรื่องจริงไม่ได้มโนไปเอง

งานวิจัยเผย : ฝนตกทำให้คนเหงา เป็นเรื่องจริงไม่ได้มโนไปเอง

จากการศึกษาเรื่อง ทำไมฝนตกแล้วต้องเหงา หรือผลกระทบจากสภาพอากาศต่อสภาพจิตใจในเชิงวิทยาศาสตร์และจิตวิทยานั้นพบว่า ในช่วงที่ฝนตก สภาพอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งความชื้นในอากาศที่เพิ่มขึ้น อุณหภูมิที่ลดต่ำลง และแสงสว่างที่ลดน้อยลง ซึ่งอธิบายให้เห็นภาพที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องของแสงสว่างที่ลดน้อยลงในวันที่ฝนตก เพราะร่างกายของมนุษย์มีสิ่งที่เรียกว่า นาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm) ที่คอยกำหนดการทำงานของสมองและร่างกายในแต่ละช่วงของวัน . ซึ่งแสงส่งผลได้อย่างชัดเจน สามารถนึกถึงอารมณ์เวลาที่ตื่นมาในวันที่มีแสงแดดแรง ท้องฟ้าสดใส และไม่ร้อนจนเกินไป กับวันที่ตื่นมาแล้วท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้ม อารมณ์ความรู้สึกในวันนั้นก็แตกต่างกันไม่น้อย ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล เพราะการได้รับแสงแดดที่ไม่เพียงพอหรือน้อยลงในตอนเช้าส่งผลต่อการทำงานของนาฬิกาชีวภาพ ต่อเนื่องไปยังสมอง ทำให้สมองผลิตเซโรโทนิน

งานวิจัยเผย : วัยรุ่นที่มีแฟนเป็นซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่โสด

งานวิจัยเผย : วัยรุ่นที่มีแฟนเป็นซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่โสด

วัยรุ่นวัยใสที่ยังไม่มีแฟนหรือแทบจะไม่ได้ไปออกเดทกับใครเขา มักถูกมองว่าขาดเสน่ห์หรือเข้าสังคมได้ไม่ดีนัก แต่ในขณะที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและพฤติกรรมวัยรุ่นในสหรัฐฯ เชื่อกันมานานว่า วัยรุ่นที่มีคู่คบหาดูใจจะมีโอกาสพัฒนาทักษะทางสังคมและวุฒิภาวะทางอารมณ์ได้ดีกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน แต่แล้วความเชื่อนี้กำลังจะเปลี่ยนไป . เนื่องจากทีมนักวิจัยด้านสาธารณสุขจากมหาวิทยาลัยจอร์เจียของสหรัฐฯ ได้มีการตีพิมพ์ผลการศึกษาล่าสุดลงในวารสาร “สุขภาพในโรงเรียน” (Journal of School Health) โดยระบุว่า ผลการติดตามเก็บข้อมูลระยะยาวเป็นเวลา 7 ปีกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียน ตั้งแต่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ชี้ว่าวัยรุ่นที่ไม่ได้คบหาเป็นแฟนกับใครและไม่ค่อยได้ออกเดทนั้น ไม่ได้มีพัฒนาการทางจิตวิทยาตามวัยด้อยไปกว่าเพื่อนที่มีแฟน หนำซ้ำยังมีทักษะทางสังคมที่ดีกว่า และมีภาวะซึมเศร้าน้อยกว่าด้วย

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน . เนื่องจากการสำรวจพฤติกรรมการรับสื่อและทัศนคติต่อการรับชมโฆษณา-แคมเปญการตลาดของผู้บริโภคชาวไทยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทางบริษัท นีลเส็น มีเดีย ประเทศไทย หนึ่งในบริษัทวิจัยสื่อ-การตลาดรายใหญ่ สามารถประมวลเป็นเทรนด์สำคัญที่จะส่งผลกับการสื่อสารและทำการตลาดของภาคธุรกิจในปี 2566 นี้ . พบว่า ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน และ 61% เลือกซื้อสินค้าที่เป็นสปอนเซอร์การแข่งขัน รวมถึง