ความสำคัญของการทำวิจัย 5 ข้อ ที่คุณไม่เคยรู้

ความสำคัญของการทำวิจัยนั่นเรียบง่ายกว่าที่เราส่วนใหญ่คิดและหัวใจหลักของการทำวิจัยคือวิจัยเพื่อดับทุกข์

ก่อนอื่นเลยเราต้องลองนึกย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อนหลายๆสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้จากอดีตจนถึงปัจจุบันนวัตกรรมใหม่ๆเทคโนโลยีใหม่ๆที่เราได้เห็นได้ใช้ในทุกวันนี้มันก็เกิดมาจากความสงสัยของใครสักคนที่รู้จักการตั้งคำถามแล้วนำไปสู่การคิดการค้นหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนได้ข้อสรุปที่ดีที่สุดในตอนนั้นหรือที่เราเรียกว่าการทำวิจัยนั่นแหละค่ะถ้าเทียบกับทางพระพุทธศาสนางานวิจัยก็เปรียบเสมือนหนทางดับทุกข์ทำแล้วช่วยให้คลายปัญหาคลายข้อสงสัยและสุดท้ายเมื่อปัญหาถูกแก้สิ่งใหม่ๆก็จะสามารถเกิดขึ้นได้ในที่สุด 

แล้วเคยสงสัยค่ะว่าภาครัฐจะออกนโยบายทางการศึกษาหรือทำวิจัยไปเพื่ออะไรทำไมต้องทำและวันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยไปพร้อมๆกันกับความสำคัญของการทำวิจัย 5 ข้อที่คุณไม่เคยรู้ดังนี้

1. ทำวิจัยเพื่อตอบข้อสงสัยของเรา

ในชีวิตปกติของเราได้ผ่านการทำวิจัยกันมาแล้วไม่ว่าจะซื้อบ้านซื้อของแต่งงานซื้อรถล้วนแล้วผ่านการทำการสืบค้นหาทางเลือกมาแล้วทั้งนั้นแถมยังมีการเปรียบเทียบต่างๆเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ดีที่สุดสำหรับตัวเราเราทำวิจัยเพื่อตอบสนองความสงสัยใคร่รู้ของเรานั่นเอง

2. ทำวิจัยเพื่อให้เกิดความเข้าใจ

ต้องยอมรับค่ะว่าปัจจุบันนี้มีวิทยาการใหม่ๆเพิ่มพูนเกิดขึ้นเยอะมากทั้งด้านทฤษฎีและปฎิบัติดังนั้นจึงต้องมีการทำการวิจัยเพื่อเกิดความเข้าใจปัญหาเข้าใจพฤติกรรมมนุษย์จะช่วยให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและยุติธรรมขึ้นแถมยังทำให้เราเข้าใจและทำนายปรากฎการณ์และพฤติกรรมต่างๆได้อีก 

3. ทำวิจัยเพื่อให้เกิดการเรียนรู้

กระตุ้นให้มีเหตุผลรู้จักคิดและค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมเนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์มีความอยากรู้อยากเห็นอยากทราบเหตุผลและปรากฏการณ์ของสิ่งต่างที่เกิดขึ้นจึงทำการวิจัยเพื่อค้นหาคำตอบสิ่งใดที่พอรู้อยู่บ้างก็ทำให้รู้และเข้าใจดียิ่งขึ้นเป็นการเพิ่มพูนวิทยาการให้กว้างขวางลึกซึ้ง 

4. ทำวิจัยเพื่อแก้ปัญหา

เพื่อนำผลที่ได้จากการวิจัยไปวางแผนหรือกำหนดวิธีการในการควบคุมสิ่งต่างให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเช่นการวิจัยหาสาเหตุที่ทำให้ผลการเรียนของนักเรียนตกต่างเมื่อพบสาเหตุก็สามารถหาทางควบคุมหรือป้องกันได้

5. ทำวิจัยเกิดสิ่งใหม่ๆ

เป็นการศึกษาค้นคว้าเพื่อให้เกิดความรู้ใหม่สิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีใครศึกษามาก่อนแล้วนำมาพัฒนาตอบสนองให้ชีวิตมนุษย์ดีขึ้นอย่างเช่นคอมพิวเตอร์โทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ทซึ่งเกิดจากแนวคิดนำเอาเทคโนโลยีมาผสมผสานรวมกันจนมีให้เราได้ติดต่อสื่อสารกันอย่างทุกวันนี้และทั้งหมดนี้ก็คือประโยชน์ของการวิจัยคงจะพอหายสงสัยกันแล้วใช่ไหมค่ะเมื่อหายสงสัยแล้วมาเริ่มผจญภัยทำความเข้าใจกับงานวิจัยกันต่อเลยค่ะ

และทั้งหมดนี้ก็คือความสำคัญของการทำวิจัย 5 ข้อที่คุณไม่เคยรู้คงจะพอหายสงสัยกันแล้วใช่ไหมค่ะถ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆด้วยนะคะ

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา

งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา

จากการศึกษางานวิจัยเผยว่า คนที่ทำตัวแปลกๆหรือทำตัวประหลาดแตกต่างจากคนปกติ หรือคนที่มีคาแร็คเตอร์แปลกประหลาดแบบธรรมชาติของเขาเอง สามารถสร้างแรงดึงดูดต่อเพศตรงข้าม และทำให้มีโอกาสหาแฟนหรือคนรู้ใจได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ใครที่โสดมานานแล้วอยากสละโสด คงจะได้ฤกษ์สละโสดเร็วๆนี้แล้ว . ซึ่งผลวิจัยดังกล่าวข้างต้น อ้างอิงจากวารสารว่าด้วยบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม (Personality and Social Psychology Bulletin) ของสหรัฐอเมริกา เป็นการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิง จากการเลือกเพศตรงข้ามที่สนใจผ่านเว็บไซต์หาคู่เดทออนไลน์ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงต่างถูกใจในผู้ที่มีความแปลกกว่าคนทั่วไป ทั้งในเรื่องสไตล์เสื้อผ้า การแต่งตัว รสนิยม และทัศนคติ . บางท่านอาจสงสัยว่า

งานวิจัยเผย : ฝนตกทำให้คนเหงา เป็นเรื่องจริงไม่ได้มโนไปเอง

งานวิจัยเผย : ฝนตกทำให้คนเหงา เป็นเรื่องจริงไม่ได้มโนไปเอง

จากการศึกษาเรื่อง ทำไมฝนตกแล้วต้องเหงา หรือผลกระทบจากสภาพอากาศต่อสภาพจิตใจในเชิงวิทยาศาสตร์และจิตวิทยานั้นพบว่า ในช่วงที่ฝนตก สภาพอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งความชื้นในอากาศที่เพิ่มขึ้น อุณหภูมิที่ลดต่ำลง และแสงสว่างที่ลดน้อยลง ซึ่งอธิบายให้เห็นภาพที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องของแสงสว่างที่ลดน้อยลงในวันที่ฝนตก เพราะร่างกายของมนุษย์มีสิ่งที่เรียกว่า นาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm) ที่คอยกำหนดการทำงานของสมองและร่างกายในแต่ละช่วงของวัน . ซึ่งแสงส่งผลได้อย่างชัดเจน สามารถนึกถึงอารมณ์เวลาที่ตื่นมาในวันที่มีแสงแดดแรง ท้องฟ้าสดใส และไม่ร้อนจนเกินไป กับวันที่ตื่นมาแล้วท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้ม อารมณ์ความรู้สึกในวันนั้นก็แตกต่างกันไม่น้อย ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล เพราะการได้รับแสงแดดที่ไม่เพียงพอหรือน้อยลงในตอนเช้าส่งผลต่อการทำงานของนาฬิกาชีวภาพ ต่อเนื่องไปยังสมอง ทำให้สมองผลิตเซโรโทนิน

งานวิจัยเผย : วัยรุ่นที่มีแฟนเป็นซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่โสด

งานวิจัยเผย : วัยรุ่นที่มีแฟนเป็นซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่โสด

วัยรุ่นวัยใสที่ยังไม่มีแฟนหรือแทบจะไม่ได้ไปออกเดทกับใครเขา มักถูกมองว่าขาดเสน่ห์หรือเข้าสังคมได้ไม่ดีนัก แต่ในขณะที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและพฤติกรรมวัยรุ่นในสหรัฐฯ เชื่อกันมานานว่า วัยรุ่นที่มีคู่คบหาดูใจจะมีโอกาสพัฒนาทักษะทางสังคมและวุฒิภาวะทางอารมณ์ได้ดีกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน แต่แล้วความเชื่อนี้กำลังจะเปลี่ยนไป . เนื่องจากทีมนักวิจัยด้านสาธารณสุขจากมหาวิทยาลัยจอร์เจียของสหรัฐฯ ได้มีการตีพิมพ์ผลการศึกษาล่าสุดลงในวารสาร “สุขภาพในโรงเรียน” (Journal of School Health) โดยระบุว่า ผลการติดตามเก็บข้อมูลระยะยาวเป็นเวลา 7 ปีกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียน ตั้งแต่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ชี้ว่าวัยรุ่นที่ไม่ได้คบหาเป็นแฟนกับใครและไม่ค่อยได้ออกเดทนั้น ไม่ได้มีพัฒนาการทางจิตวิทยาตามวัยด้อยไปกว่าเพื่อนที่มีแฟน หนำซ้ำยังมีทักษะทางสังคมที่ดีกว่า และมีภาวะซึมเศร้าน้อยกว่าด้วย

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน . เนื่องจากการสำรวจพฤติกรรมการรับสื่อและทัศนคติต่อการรับชมโฆษณา-แคมเปญการตลาดของผู้บริโภคชาวไทยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทางบริษัท นีลเส็น มีเดีย ประเทศไทย หนึ่งในบริษัทวิจัยสื่อ-การตลาดรายใหญ่ สามารถประมวลเป็นเทรนด์สำคัญที่จะส่งผลกับการสื่อสารและทำการตลาดของภาคธุรกิจในปี 2566 นี้ . พบว่า ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน และ 61% เลือกซื้อสินค้าที่เป็นสปอนเซอร์การแข่งขัน รวมถึง