- การเขียนโครงการวิจัย โครงการวิจัยหรือโครงร่างการวิจัย (Research Proposal) มีความสำคัญในการวิจัย เป็นการกำหนดแผนว่าจะทำวิจัย ประกอบด้วยรายละเอียด ดังนี้
– ชื่อเรื่อง การตั้งชื่อควรใช้ภาษาง่าย ๆ และใช้ประโยคที่ได้ใจความสมบูรณ์ชัดเจน
– ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา เขียนในลักษณะของความเรียงโดยบรรยายที่มาของปัญหาที่ต้องการจะทำวิจัยนั้น และมีแรงจูงใจอย่างไรบ้างที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ทำการวิจัยต้องการจะวิจัยปัญหานี้ รวมทั้งประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับด้วย
– วัตถุประสงค์ของการวิจัย เขียนระบุให้ชัดเจนเป็นข้อ ๆ ว่า ผู้วิจัยต้องการทราบอะไร
– สมมติฐานในการวิจัย (ถ้ามี)
– ขอบเขตการวิจัย เป็นการกำหนดขอบเขตของปัญหาที่ทำการวิจัยว่ากว้างหรือแคบเพียงใด โดยทั่วไปมักกำหนดขอบเขตในเรื่องเวลา สถานที่และกลุ่มตัวอย่าง
– ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับการวิจัย เป็นการบอกว่างานวิจัยจะให้ประโยชน์ในแง่ใด เช่น แง่การบริหาร การวางแผน การนำผลการวิจัยไปใช้ ควรระบุเป็นข้อ ๆ ให้ชัดเจน
– นิยามศัพท์หรือคำจำกัดความที่ใช้ในการวิจัย เป็นการเขียนความหมายเฉพาะในการวิจัยที่ผู้วิจัยกำหนดขึ้นมา ไม่ได้เป็นความหมายในพจนานุกรมแต่อย่างใด
– เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เขียนเอกสาร ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในลักษณะผสมผสาน
-วิธีดำเนินการวิจัย กล่าวถึงการวิจัยโดยสรุปครอบคลุม ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล และวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
– บรรณานุกรม
งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา
จากการศึกษางานวิจัยเผยว่า คนที่ทำตัวแปลกๆหรือทำตัวประหลาดแตกต่างจากคนปกติ หรือคนที่มีคาแร็คเตอร์แปลกประหลาดแบบธรรมชาติของเขาเอง สามารถสร้างแรงดึงดูดต่อเพศตรงข้าม และทำให้มีโอกาสหาแฟนหรือคนรู้ใจได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ใครที่โสดมานานแล้วอยากสละโสด คงจะได้ฤกษ์สละโสดเร็วๆนี้แล้ว . ซึ่งผลวิจัยดังกล่าวข้างต้น อ้างอิงจากวารสารว่าด้วยบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม (Personality and Social Psychology Bulletin) ของสหรัฐอเมริกา เป็นการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิง จากการเลือกเพศตรงข้ามที่สนใจผ่านเว็บไซต์หาคู่เดทออนไลน์ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงต่างถูกใจในผู้ที่มีความแปลกกว่าคนทั่วไป ทั้งในเรื่องสไตล์เสื้อผ้า การแต่งตัว รสนิยม และทัศนคติ . บางท่านอาจสงสัยว่า