แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมจากคนไทย

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมจากคนไทย

Thesis Thailand สำรวจแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมจากคนไทย พบว่าในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลายรายการที่ได้รับความนิยมจากคนไทย ดังนี้:

  • Facebook: Facebook เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ในประเทศไทย มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุด โดยเปิดให้ผู้ใช้แชร์ข้อมูล, รูปภาพ, วิดีโอ และสื่อต่าง ๆ กับเพื่อน ๆ และครอบครัว
  • YouTube: YouTube เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากในประเทศไทย ผู้ใช้สามารถดูวิดีโอที่สร้างขึ้นโดยผู้ใช้งานคนอื่น ๆ และสามารถสร้างและแชร์เนื้อหาของตนเองได้
  • Instagram: Instagram เป็นแพลตฟอร์มสื่อสังคมที่เน้นรูปภาพและวิดีโอ มีความนิยมสูงในกลุ่มผู้ใช้ที่สนใจด้านศิลปะ, การถ่ายภาพ, และการแชร์ชีวิตประจำวัน ผู้ใช้สามารถแชร์ภาพและวิดีโอของตนเองและติดตามผู้ใช้งานคนอื่น ๆ
  • Twitter: Twitter เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ผู้ใช้งานสามารถโพสต์ข้อความสั้น ๆ (ทวีต) และรูปภาพ โดยสามารถติดตามและแชร์ทวีตของผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ได้ มีผู้ใช้งานจำนวนมากในประเทศไทยที่ใช้Twitter เพื่อแสดงความคิดเห็น, แชร์ข่าวสาร, และสนทนากับผู้ใช้งานคนอื่น
  • Line: Line เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันการสื่อสารที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยบริษัท Line Corporation ที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2011 โดยเริ่มต้นเป็นแอปพลิเคชันส่วนตัวที่ให้ผู้ใช้ส่งข้อความและโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตฟรี แต่ก่อนหน้านั้น บริษัทได้เปิดตัวเพื่อแข่งขันกับแอปพลิเคชันชื่อดังอื่น ๆ 
  • TikTok: TikTok เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เน้นวิดีโอสั้น ๆ ที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเอง มีความนิยมสูงในกลุ่มผู้ใช้ที่สนใจการสร้างเนื้อหาสร้างสรรค์ ผู้ใช้สามารถดูวิดีโอของผู้ใช้คนอื่น ๆ และสร้างวิดีโอเองได้

Facebook 44 ล้านผู้ใช้ กลุ่มหลักอายุ 18-44 ปี ใช้อัพเดทข้อมูลข่าวสาร

YouTube 38 ล้านผู้ใช้ ทุกช่วงอายุ คอนเทนต์บันเทิงและแรงบันดาลใจ

Instagram 23 ล้านผู้ใช้ กลุ่มหลัก 18-35 ปี คอนเทนต์โฟโต้บุ๊ก

Twitter 8 ล้านผู้ใช้ กลุ่มหลัก 16-29 ปี อัพเดทเทรนด์และข่าวสาร แสดงความคิดเห็น

Line 50 ล้านผู้ใช้ ทุกช่วงอายุ ใช้งานแชท

TikTok 27 ล้านผู้ใช้ กลุ่มหลัก 18-35 ปี คลิปสั้น คอนเทนต์บันเทิง

นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น LinkedIn, Snapchat, Pinterest ฯลฯ ที่มีผู้ใช้งานในประเทศไทยอย่างแพร่หลายอย่างไรก็ตาม ความนิยมของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแนวโน้มและความสนใจของผู้ใช้งานในแต่ละช่วงเวลา และถ้าคุณอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับการสำรวจแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมจากคนไทยเพิ่มเติมสามารถสอบถามกับทาง Thesis Thailand เราที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยได้

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจากเว็บ https://www.brandbuffet.in.th/2023/01/2023-hand-book-post-pandemic-study-by-mi-group/

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา

งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา

จากการศึกษางานวิจัยเผยว่า คนที่ทำตัวแปลกๆหรือทำตัวประหลาดแตกต่างจากคนปกติ หรือคนที่มีคาแร็คเตอร์แปลกประหลาดแบบธรรมชาติของเขาเอง สามารถสร้างแรงดึงดูดต่อเพศตรงข้าม และทำให้มีโอกาสหาแฟนหรือคนรู้ใจได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ใครที่โสดมานานแล้วอยากสละโสด คงจะได้ฤกษ์สละโสดเร็วๆนี้แล้ว . ซึ่งผลวิจัยดังกล่าวข้างต้น อ้างอิงจากวารสารว่าด้วยบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม (Personality and Social Psychology Bulletin) ของสหรัฐอเมริกา เป็นการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิง จากการเลือกเพศตรงข้ามที่สนใจผ่านเว็บไซต์หาคู่เดทออนไลน์ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงต่างถูกใจในผู้ที่มีความแปลกกว่าคนทั่วไป ทั้งในเรื่องสไตล์เสื้อผ้า การแต่งตัว รสนิยม และทัศนคติ . บางท่านอาจสงสัยว่า

งานวิจัยเผย : ฝนตกทำให้คนเหงา เป็นเรื่องจริงไม่ได้มโนไปเอง

งานวิจัยเผย : ฝนตกทำให้คนเหงา เป็นเรื่องจริงไม่ได้มโนไปเอง

จากการศึกษาเรื่อง ทำไมฝนตกแล้วต้องเหงา หรือผลกระทบจากสภาพอากาศต่อสภาพจิตใจในเชิงวิทยาศาสตร์และจิตวิทยานั้นพบว่า ในช่วงที่ฝนตก สภาพอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งความชื้นในอากาศที่เพิ่มขึ้น อุณหภูมิที่ลดต่ำลง และแสงสว่างที่ลดน้อยลง ซึ่งอธิบายให้เห็นภาพที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องของแสงสว่างที่ลดน้อยลงในวันที่ฝนตก เพราะร่างกายของมนุษย์มีสิ่งที่เรียกว่า นาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm) ที่คอยกำหนดการทำงานของสมองและร่างกายในแต่ละช่วงของวัน . ซึ่งแสงส่งผลได้อย่างชัดเจน สามารถนึกถึงอารมณ์เวลาที่ตื่นมาในวันที่มีแสงแดดแรง ท้องฟ้าสดใส และไม่ร้อนจนเกินไป กับวันที่ตื่นมาแล้วท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้ม อารมณ์ความรู้สึกในวันนั้นก็แตกต่างกันไม่น้อย ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล เพราะการได้รับแสงแดดที่ไม่เพียงพอหรือน้อยลงในตอนเช้าส่งผลต่อการทำงานของนาฬิกาชีวภาพ ต่อเนื่องไปยังสมอง ทำให้สมองผลิตเซโรโทนิน

งานวิจัยเผย : วัยรุ่นที่มีแฟนเป็นซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่โสด

งานวิจัยเผย : วัยรุ่นที่มีแฟนเป็นซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่โสด

วัยรุ่นวัยใสที่ยังไม่มีแฟนหรือแทบจะไม่ได้ไปออกเดทกับใครเขา มักถูกมองว่าขาดเสน่ห์หรือเข้าสังคมได้ไม่ดีนัก แต่ในขณะที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและพฤติกรรมวัยรุ่นในสหรัฐฯ เชื่อกันมานานว่า วัยรุ่นที่มีคู่คบหาดูใจจะมีโอกาสพัฒนาทักษะทางสังคมและวุฒิภาวะทางอารมณ์ได้ดีกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน แต่แล้วความเชื่อนี้กำลังจะเปลี่ยนไป . เนื่องจากทีมนักวิจัยด้านสาธารณสุขจากมหาวิทยาลัยจอร์เจียของสหรัฐฯ ได้มีการตีพิมพ์ผลการศึกษาล่าสุดลงในวารสาร “สุขภาพในโรงเรียน” (Journal of School Health) โดยระบุว่า ผลการติดตามเก็บข้อมูลระยะยาวเป็นเวลา 7 ปีกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียน ตั้งแต่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ชี้ว่าวัยรุ่นที่ไม่ได้คบหาเป็นแฟนกับใครและไม่ค่อยได้ออกเดทนั้น ไม่ได้มีพัฒนาการทางจิตวิทยาตามวัยด้อยไปกว่าเพื่อนที่มีแฟน หนำซ้ำยังมีทักษะทางสังคมที่ดีกว่า และมีภาวะซึมเศร้าน้อยกว่าด้วย

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน . เนื่องจากการสำรวจพฤติกรรมการรับสื่อและทัศนคติต่อการรับชมโฆษณา-แคมเปญการตลาดของผู้บริโภคชาวไทยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทางบริษัท นีลเส็น มีเดีย ประเทศไทย หนึ่งในบริษัทวิจัยสื่อ-การตลาดรายใหญ่ สามารถประมวลเป็นเทรนด์สำคัญที่จะส่งผลกับการสื่อสารและทำการตลาดของภาคธุรกิจในปี 2566 นี้ . พบว่า ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน และ 61% เลือกซื้อสินค้าที่เป็นสปอนเซอร์การแข่งขัน รวมถึง