งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา
จากการศึกษางานวิจัยเผยว่า คนที่ทำตัวแปลกๆหรือทำตัวประหลาดแตกต่างจากคนปกติ หรือคนที่มีคาแร็คเตอร์แปลกประหลาดแบบธรรมชาติของเขาเอง สามารถสร้างแรงดึงดูดต่อเพศตรงข้าม และทำให้มีโอกาสหาแฟนหรือคนรู้ใจได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ใครที่โสดมานานแล้วอยากสละโสด คงจะได้ฤกษ์สละโสดเร็วๆนี้แล้ว . ซึ่งผลวิจัยดังกล่าวข้างต้น อ้างอิงจากวารสารว่าด้วยบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม (Personality and Social Psychology Bulletin) ของสหรัฐอเมริกา เป็นการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิง จากการเลือกเพศตรงข้ามที่สนใจผ่านเว็บไซต์หาคู่เดทออนไลน์ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงต่างถูกใจในผู้ที่มีความแปลกกว่าคนทั่วไป ทั้งในเรื่องสไตล์เสื้อผ้า การแต่งตัว รสนิยม และทัศนคติ . บางท่านอาจสงสัยว่า “คนทำตัวประหลาด” หรือ “คนแปลก” คือคนแบบไหน ? สามารถอธิบายได้ว่า การทำตัวประหลาดหรือทำตัวแปลกนั้น ไม่ใช่การตั้งใจทำตัวเด่น หรือสร้างปัญหาให้คนรอบข้าง แต่คือการที่ได้ปล่อยความเป็นตัวของตัวเองจริงๆออกมาอย่างแตกต่างและไม่เหมือนใครแบบตามธรรมชาติ ซึ่งเน้นย้ำว่า “ตามธรรมชาติ” ไม่ใช่การตั้งใจทำตัวแปลกๆ เพราะจริงๆแล้วมนุษย์แต่ละคนมักจะมีนิสัย ความชอบ และสไตล์ที่แตกต่างกันอยู่แล้ว เช่น ทัศนคติ ความคิดเห็นต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง รสนิยมการแต่งตัว หรือการเลือกใส่เสื้อผ้าที่เป็นตัวของตัวเอง และสิ่งเหล่านี้คือเสน่ห์ที่จะช่วยสร้างแรงดึงดูดต่อคนรอบข้างรวมถึงเพศตรงข้ามอีกด้วย . อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังพบอีกว่า กลุ่มคนที่มีนิสัยแปลกๆ หรือพิลึกกว่าชาวบ้านนั้น มักจะรู้จักตัวเองดีกว่า มีความเป็นตัวของตัวเองสูงกว่า มีอารมณ์ขันมากกว่าคนธรรมดา […]
งานวิจัยเผย : ฝนตกทำให้คนเหงา เป็นเรื่องจริงไม่ได้มโนไปเอง
จากการศึกษาเรื่อง ทำไมฝนตกแล้วต้องเหงา หรือผลกระทบจากสภาพอากาศต่อสภาพจิตใจในเชิงวิทยาศาสตร์และจิตวิทยานั้นพบว่า ในช่วงที่ฝนตก สภาพอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งความชื้นในอากาศที่เพิ่มขึ้น อุณหภูมิที่ลดต่ำลง และแสงสว่างที่ลดน้อยลง ซึ่งอธิบายให้เห็นภาพที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องของแสงสว่างที่ลดน้อยลงในวันที่ฝนตก เพราะร่างกายของมนุษย์มีสิ่งที่เรียกว่า นาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm) ที่คอยกำหนดการทำงานของสมองและร่างกายในแต่ละช่วงของวัน . ซึ่งแสงส่งผลได้อย่างชัดเจน สามารถนึกถึงอารมณ์เวลาที่ตื่นมาในวันที่มีแสงแดดแรง ท้องฟ้าสดใส และไม่ร้อนจนเกินไป กับวันที่ตื่นมาแล้วท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้ม อารมณ์ความรู้สึกในวันนั้นก็แตกต่างกันไม่น้อย ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล เพราะการได้รับแสงแดดที่ไม่เพียงพอหรือน้อยลงในตอนเช้าส่งผลต่อการทำงานของนาฬิกาชีวภาพ ต่อเนื่องไปยังสมอง ทำให้สมองผลิตเซโรโทนิน (Serotonin) ที่ได้ชื่อว่าเป็นสารแห่งอารมณ์ได้น้อยลง จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมคุณไม่ค่อยกระฉับกระเฉง รู้สึกหม่น ๆ หมอง ๆ อยากนอนต่อในวันที่ฝนตก หรือแม้แต่ทำให้คุณรู้สึก ‘เหงา’ ขึ้นมานั่นเอง . อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่ช่วยยืนยันได้ว่าฝนนั้นทำให้คนเหงาได้จริงๆ คือ การที่คนจำนวนไม่น้อยพร้อมใจกันโพสต์ข้อความหรือภาพเศร้าๆ เหงาๆ พร้อมแคปชันลงโซเชียลมีเดียพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายในวันที่ฝนตก ซึ่งมีการศึกษาที่พบว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ ฝนไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกเหงาเพียงอย่างเดียว แต่ยังอาจทำให้รู้สึกเนือยๆ ขี้เกียจ หรือเศร้าได้เช่นกัน แต่ความรู้สึกนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้งที่ฝนตกและไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน ผลลัพธ์จากข้อมูลการศึกษาในผู้ใหญ่ 415 คน พบว่าคนกว่าครึ่งหนึ่งในนี้ไม่ได้เกิดผลกระทบทางอารมณ์จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป หรือบางคนก็ไม่ได้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอะไรขนาดนั้น ในขณะที่อีกกลุ่มที่ชื่อ Rain […]
งานวิจัยเผย : วัยรุ่นที่มีแฟนเป็นซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่โสด
วัยรุ่นวัยใสที่ยังไม่มีแฟนหรือแทบจะไม่ได้ไปออกเดทกับใครเขา มักถูกมองว่าขาดเสน่ห์หรือเข้าสังคมได้ไม่ดีนัก แต่ในขณะที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและพฤติกรรมวัยรุ่นในสหรัฐฯ เชื่อกันมานานว่า วัยรุ่นที่มีคู่คบหาดูใจจะมีโอกาสพัฒนาทักษะทางสังคมและวุฒิภาวะทางอารมณ์ได้ดีกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน แต่แล้วความเชื่อนี้กำลังจะเปลี่ยนไป . เนื่องจากทีมนักวิจัยด้านสาธารณสุขจากมหาวิทยาลัยจอร์เจียของสหรัฐฯ ได้มีการตีพิมพ์ผลการศึกษาล่าสุดลงในวารสาร “สุขภาพในโรงเรียน” (Journal of School Health) โดยระบุว่า ผลการติดตามเก็บข้อมูลระยะยาวเป็นเวลา 7 ปีกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียน ตั้งแต่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ชี้ว่าวัยรุ่นที่ไม่ได้คบหาเป็นแฟนกับใครและไม่ค่อยได้ออกเดทนั้น ไม่ได้มีพัฒนาการทางจิตวิทยาตามวัยด้อยไปกว่าเพื่อนที่มีแฟน หนำซ้ำยังมีทักษะทางสังคมที่ดีกว่า และมีภาวะซึมเศร้าน้อยกว่าด้วย . นอกจากนี้ ทีมผู้วิจัยยังให้ครูประจำชั้นของวัยรุ่นแต่ละคนประเมินพฤติกรรมของพวกเขาในด้านต่าง ๆ ทั้งทักษะทางสังคม ทักษะความเป็นผู้นำ และแนวโน้มที่จะมีภาวะซึมเศร้า ก่อนจะประมวลผลข้อมูลทั้งสองชุดเข้าด้วยกัน . ผลปรากฏว่า นักเรียนวัยรุ่นที่ไม่มีแฟนหรือไม่ค่อยได้มีประสบการณ์ออกเดท กลับมีทักษะด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลไม่แตกต่างหรือดียิ่งกว่าเพื่อนที่มีคนรักเสียอีก ทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น มีความรู้สึกทุกข์เศร้าหรือสิ้นหวังน้อยกว่ากลุ่มเพื่อนที่มีแฟนอย่างมีนัยสำคัญด้วย . ดังนั้น ชี้ให้เห็นว่า วัยรุ่นที่ไม่มีแฟนหรือความสัมพันธ์แบบหนุ่มสาวกับผู้อื่น ไม่ได้เป็นพวกเข้ากับสังคมไม่ได้แต่อย่างใด วัยรุ่นสามารถเลือกที่จะยังไม่มีคู่รัก โดยยังคงมีพัฒนาการทางอารมณ์และสังคมที่เหมาะสมตามวัยไปพร้อมกันได้ โดยไม่ถือว่าผิดปกติ และหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ หากคุณสนใจหรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องของงานวิจัยนี้สามารถสอบถามกับทาง Thesis Thailand เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยที่พร้อมซัพพอร์ตคุณ . ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจากเว็บ […]
รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน
รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน . เนื่องจากการสำรวจพฤติกรรมการรับสื่อและทัศนคติต่อการรับชมโฆษณา-แคมเปญการตลาดของผู้บริโภคชาวไทยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทางบริษัท นีลเส็น มีเดีย ประเทศไทย หนึ่งในบริษัทวิจัยสื่อ-การตลาดรายใหญ่ สามารถประมวลเป็นเทรนด์สำคัญที่จะส่งผลกับการสื่อสารและทำการตลาดของภาคธุรกิจในปี 2566 นี้ . พบว่า ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน และ 61% เลือกซื้อสินค้าที่เป็นสปอนเซอร์การแข่งขัน รวมถึง 42% และกลุ่มเจน Y กับเจน X ระบุว่า รู้สึกอินกับโฆษณาที่ใช้ธีมกีฬาหรืออินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นนักกีฬา มากกว่าโฆษณารูปแบบอื่น ๆ . ยังมี 2 ปัจจัยที่แบรนด์และนักการตลาดต้องระมัดระวัง นั่นคือการเก็บข้อมูลของลูกค้า-ผู้บริโภคที่จะท้าทายมากขึ้น หลังผู้บริโภคไทยสนใจและให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนตัวและการถูกติดตามโดยแบรนด์มากขึ้น เนื่องจากความกังวลที่ไม่ทราบว่าข้อมูลจะถูกนำไปใช้ทำอะไร . โดยจากการสำรวจมีผู้บริโภคเพียง 19% ที่อนุญาตให้ทุกแอปหรือเว็บไซต์ติดตามพฤติกรรมการใช้งานได้แบบ 100% ส่วน 57% เลือกอนุญาตให้บางแอป-เว็บไซต์ และ 20% ไม่อนุญาตให้มีการติดตามเลย ในจำนวนนี้แบ่งเป็น 28% ของกลุ่มเจน […]
มือใหม่ทำงานวิจัยต้องควรรู้
Thesis Thailand ขอแนะนำ “ มือใหม่ทำงานวิจัยต้องควรรู้ ” . เนื่องจากการทำวิจัยหาความรู้ หรือการทำวิจัยพัฒนาสิ่งใด มันมีกระบวนการขั้นตอนที่เกิดจากต้องวิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อประมวลเป็นความรู้ และนำไปใช้เป็นหลักฐานเหตุผล ให้ได้ข้อสรุป “ด้วยตนเอง” เมื่อชำนาญแล้ว ค่อยขยับไปทำงานวิจัยที่ต้องการ “ค้นพบ” ความรู้ใหม่ หรือแนวทางใหม่ๆ . มือใหม่ทำงานวิจัยต้องควรรู้ คือ “ทำสิ่งใดด้วยกระบวนการวิจัย” ได้แก่ การตั้งคำถามให้ผู้ที่อยากจะทำงานด้วยการวิจัยตอบก่อน โดยผมจะถามซักไซ้ไปเรื่อยๆ ถึงเรื่องที่อยากทำตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงบทสรุป จนบุคคลเหล่านั้นเข้าใจการวิจัยอย่างแท้จริงก่อน จากนั้นผมถึงจะให้ ลงมือเขียนเค้าโครงร่างงานวิจัยตามหัวข้อคำถามที่ผมถามไป เมื่อตรวจทานและสอบถามเสร็จ จึงจัดทำเป็นรูปเล่ม เพื่อที่นำไปลงมือทำงานด้วยการวิจัยตามที่ตนเองวางแผนไว้ ซึ่งผลที่ได้คือ ทุกคนทำงานที่อยากทำนั้นได้อย่างราบรื่น ใช้เวลาตรงตามที่กำหนดไว้ ไม่มีอุปสรรคปัญหาในการทำงานวิจัยเหมือนที่ผ่านมา . ควรตั้งคำถามที่ใช้ในการทำงานการวิจัย ๑๐ ประเด็น ดังนี้ . อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะทำวิจัยมือใหม่ต้องเตรียมตัว เตรียมใจให้อดทน เข้มแข็ง หนักแน่น ก็คือ การต้องแก้ไขขัดเกลาตามความคิดเห็นของที่ปรึกษา และคณะกรรมการแต่ละคนที่ทำให้เป็นตัวแปร […]
พฤติกรรมของผู้บริโภคที่อาจจะเปลี่ยนไปในยุคหลังโควิด
Thesis Thailand สำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่อาจจะเปลี่ยนไปในยุคหลังโควิด . เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความเปลี่ยนแปลงสำคัญในยุคหลังโควิด-19 โดยส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและพฤติกรรมการบริโภคทั่วไป อาทิเช่น ผู้บริโภคที่ได้ลองซื้อของผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้เกิดความเคยชินไปแล้ว หรือการให้ความสำคัญกับค่านิยม (Value) เพื่อให้ได้ใจลูกค้ากลุ่ม GenZ และ Millennials รวมถึงการใช้ Data เพื่อหา Insight ของผู้บริโภค และปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมตามอยู่เสมอ เป็นต้น นี่คือบางพฤติกรรมที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในยุคหลังโควิด: . . . . . . . ดังนั้น การเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคหลังโควิด-19 เป็นสิ่งสำคัญในการปรับกลยุทธ์การตลาดและการทำธุรกิจให้เหมาะสมกับสถานการณ์ใหม่นี้ โดยการตรวจสอบและรับฟังความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า และการปรับปรุงแผนกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง และหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ หากคุณสนใจเรื่องพฤติกรรมของผู้บริโภคที่อาจจะเปลี่ยนไปในยุคหลังโควิด หรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องสามารถสอบถามกับทาง Thesis Thailand เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยที่พร้อมซัพพอร์ตคุณ . ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจากเว็บ https://www.truedigitalacademy.com/blog/digitrend-4-customer-behavior-in-a-post-covid19-world
เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภค 2023 ควรทำอย่างไรให้ได้ใจลูกค้า
Thesis Thailand เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภค 2023 ควรทำอย่างไรให้ได้ใจลูกค้า . เนื่องจากการซื้อขายสินค้าอาจจะมีองค์ประกอบคร่าว ๆ เพียงแค่ แบรนด์ สินค้า และผู้บริโภค แต่ในโลกของธุรกิจจริง ๆ กลับมีความซับซ้อนและข้อมูลมากมาย รวมไปถึงคู่แข่งในแต่ละตลาด ดังนั้นผู้ที่เข้าใจตลาดก่อน ย่อมเดินนำไปก่อนหนึ่งก้าวเสมอ ทำให้ในบทความนี้เราจะมาส่องเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภค 2023 ซึ่งเป็นคำภีร์พื้นฐานที่สำคัญสำหรับแบรนด์ ในการพาสินค้าและบริการของตนเอง กระโดดเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค . มีการคาดการณ์ว่าพฤติกรรมผู้บริโภค 2023 มีแนวโน้มที่จะใช้หุ่นยนต์ หรือ ระบบอัตโนมัติในการช่วยตัดสินใจซื้อสินค้าต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น อย่างที่เราเห็นว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การช้อปปิ้งสินค้าเปลี่ยนผ่านไปอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้บริโภคต่างมองหาความสะดวกสบายในการซื้อสินค้า ทำให้ช่องทางการซื้อสินค้าออนไลน์ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี . แต่พฤติกรรมผู้บริโภค 2023 ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มผู้บริโภคเหล่านี้ต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการตัดสินใจซื้อมากกว่าเดิม ทำให้มีการมองหาระบบอัตโนมัติที่ทำให้การช้อปปิ้งเหนือขึ้นไปอีกขั้น เพราะระบบต่าง ๆ เหล่านี้สามารถคัดเลือกสินค้าตามพฤติกรรมและความต้องการรายบุคคลได้ รวมถึงสามารถเปรียบเทียบสินค้าต่าง ๆ เพื่อให้ได้สินค้าที่ดีที่สุดและตรงกับความต้องการภายในพริบตาเดียว . จากข้อมูลการศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า แบรนด์ต้องให้ความสำคัญกับ C ตัวใหม่ที่เกิดขึ้น ซึ่งย่อมาจาก “Consumer” […]
สำรวจคนมั่งคั่งในเอเชีย นิยมใช้สื่อโซเชียลไหนบ้าง
Thesis Thailand สำรวจคนมั่งคั่งในเอเชีย นิยมใช้สื่อโซเชียลไหนบ้าง . จากสถิติในเอเชียแปซิฟิกมีจำนวนคนมั่งคั่งสูงถึง 18% ของประชากรทั้งหมด นับเป็น 20.64 ล้านคน หรือมีรายได้เฉลี่ยร่วม 20 ล้านล้านบาทต่อเดือน เผยวิถีชีวิตกลุ่มคนมั่งคั่งในเอเชีย รวมทั้งคนไทยใช้ไลฟ์สไตล์อย่างไรให้สมควรว่ารวยของจริง และ คุณอิษณาติ วุฒิธนากุล ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรลูกค้า บริษัท อิปซอสส์ ประเทศไทย จำกัด เล่าถึงผลวิจัย “วิถีชีวิตกลุ่มคนมั่งคั่งในเอเชีย” หรือ “Affluent Asia” ว่า การสำรวจในครั้งนี้ครอบคลุม 11 ประเทศทั่วเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย . หากพิจารณารายได้ของคนกลุ่มมั่งคั่ง โดยชาวเอเชียมีรายได้ครัวเรือนต่อเดือนอยู่ที่ $USD 5,477 หรือประมาณ 1.6 แสนบาท อย่างไรก็ตามกลุ่มคนมั่งคั่งที่ไทยมีรายได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของเอเชีย โดยคนไทยที่มีความมั่งคั่งราว 1.8 ล้านคน มีรายได้ครัวเรือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่เพียง $USD 4,826 หรือประมาณ 1.4 แสนบาทเท่านั้น . สำหรับกลุ่มคนมั่งคั่งชาวเอเชียแปซิฟิกนิยมใช้สื่อโซเชียล ตามลำดับดังนี้ […]
เร่งแก่ปัญหารับจ้าง “ทำวิจัย-วิทยานิพนธ์” หากพบการกระทำผิดมหาวิทยาลัยต้องดำเนินการตามกฎหมายทันที
กรณีพบเห็นการโฆษณารับทำวิจัยและวิทยานิพนธ์ในสื่อออนไลน์และออฟไลน์ต่าง ๆ นั้น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาดังกล่าว นอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและจริยธรรมการวิจัยแล้ว ยังส่งผลเสียต่อ “ความน่าเชื่อถือ” ของระบบการศึกษาและวิจัย.กองกฎหมายจากสำนักงานปลัดกระทรวง อว. จึงได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ จนได้ข้อมูลที่ชัดเจน และเข้าแจ้งความต่อกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เพื่อดำเนินคดีกับผู้ดำเนินการดังกล่าวแล้ว.โดยการจ้างทำงานวิจัย ผลงานวิทยานิพนธ์นั้น เป็นความผิดทางอาญาตามมาตรา 70 แห่ง พ.ร.บ. อุดมศึกษา พ.ศ. 2562 และหากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.นอกจากนี้ สำนักงานปลัดกระทรวง อว. ได้แจ้งไปยังมหาวิทยาลัยทุกแห่งให้ดูแล ติดตาม ตรวจสอบ ไม่ให้มีการรับจ้างทำวิจัยและวิทยานิพนธ์ รวมทั้งดูแลบุคลากรและนักศึกษามไม่ให้นักวิจัย อาจารย์และนักศึกษา “ร่วมกระทำผิด” ไม่ว่าจะเป็นการจ้าง วาน หรือรับดำเนินการ หากพบเห็นการกระทำผิดดังกล่าว ให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที อ่านเพิ่มเติม คลิก https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/69401 ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/69915
อว.เอาจริง ดำเนินคดีรับจ้างทำวิจัยและวิทยานิพนธ์
ข่าวเด็ด 7 สี – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. สั่งเอาจริง กรณีตรวจพบเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และเว็บไซต์ โฆษณารับทำงานวิจัย และวิทยานิพนธ์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย และจริยธรรมการวิจัย ส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของระบบการศึกษา กระทรวงฯ จึงเร่งกวาดล้างไปถึงต้นตอ และเตรียมดำเนินคดีทั้งผู้จ้างวาน, ผู้รับจ้าง และผู้ร่วมขบวนการทุกคน เพื่อรับโทษตามกฎหมายเท่ากัน การจ้างทำงานวิจัย และผลงานวิทยานิพนธ์ เป็นความผิดทางอาญาตาม พ.ร.บ.อุดมศึกษา พ.ศ.2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ที่มา : https://news.ch7.com/detail/649286